เวลา ๑๔.๓๐ น. ขณะที่นายเที่ยงกำลังทำหน้าที่เฝ้าประตูแดนสงวน
ส่วนผู้คุมที่เหลืออีก ๕ นายได้ช่วยกันควบคุมตรวจตรานักโทษที่ทำงานอยู่ตามกองงานต่างๆ
น.ช.รอด และ น.ช.หนูซึ่งใช้ผ้าแดงโพกศีรษะ
ได้ตรงเข้าแย่งขวานจากนักโทษที่ทำงานอยู่ในโรงงานช่างไม้คนละด้าม
จากนั้นได้ใช้สันขวานตีเข้าที่ถังไม้ ๓-๔ ครั้ง โดยนักโทษกองทำอิฐได้ตีปี๊บขึ้นตอบรับ
น.ช.รอด และ น.ช.หนูได้ร้องตะโกนขึ้นว่า “ไชโย ใครจะไปบ้านก็ตามมา
อ้ายพวกเหลืองๆเอาให้หมด” (อ้ายพวกเหลืองหมายถึงผู้คุม)
นักโทษที่ทำงานอยู่ตามกองงานต่างๆพากันลุกขึ้น
พร้อมกับหยิบฉวยอาวุธที่เป็นเครื่องใช้ในการทำงานเท่าที่จะหาได้ ขณะที่นักโทษบางคนงัดโซ่ตรวนที่ขาออกเพื่อสะดวกต่อการหลบหนีจากเรือนจำ
น.ช.รอด และ น.ช.หนูวิ่งนำนักโทษทั้งหมดเข้าฟันประตูป้อมเชิงเทินซึ่งอยู่ระหว่างป้อม ๑๕ และ
๑๖ เพื่อแหกหักออกไปทางถนนหน้าเรือนจำ
นักโทษบางคนได้ตรงเข้าทำร้ายร่างกายผู้คุมจนได้รับบาดเจ็บ มีนายจำปีถูกตีเข้าที่ข้างใบหูขวา
นายพุ่มถูกตีเข้าที่แขนซ้ายขณะเข้าห้ามไม่ให้นักโทษพังประตู
เมื่อผู้คุมที่เหลือเห็นว่าเหตุการณ์เริ่มรุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้
จึงได้เป่านกหวีดส่งอาณัติสัญญาณแจ้งเหตุร้าย
พร้อมกับร้องตะโกนบอกให้ยามป้อมยิงสกัดเพื่อไม่ให้นักโทษแหกหักออกไปได้ พลตำรวจเหว่า
ยามป้อมที่ ๑๕ ใช้ปืนยิงใส่ไปที่กลุ่มนักโทษที่กำลังพังประตูป้อมเชิงเทินจำนวน ๕ นัด
พลตำรวจเอม ยามป้อมที่ ๑๖ ยิงใส่ไปอีก ๑ นัด ผลปรากฏว่า น.ช.ล่อน โทษฐานฆ่าคนตายมีกำหนดโทษ ๑๖ ปี
ถูกกระสุนปืนเข้าที่เหนือสะดือข้างซ้ายทะลุชายโครงซ้ายจนร่างทรุดลงกับพื้นอาการสาหัส
เมื่อนักโทษทั้งหมดเห็นว่ามีคนถูกยิง
ต่างพากันแตกฮือวิ่งหนีออกไปทางประตูแดนซึ่งไม่ได้ใส่กุญแจไว้
คงเหลือนักโทษที่ไม่ได้เข้าร่วมก่อเหตุแหกหักประมาณ ๑๐๐ คนเศษ
เมื่อพากันวิ่งหนีออกมาพ้นประตูแดนแล้ว ได้แยกย้ายกันออกเป็น ๒ ทาง
ทางหนึ่งหนีไปทางด้านหอรักษาการณ์ ๗ ชั้น เพื่อแหกหักออกทางประตูใหญ่ของเรือนจำ
อีกทางหนึ่งหนีเข้าไปในสถานพยาบาลของเรือนจำเพื่อทะลุออกทางด้านหลังของสถานพยาบาลไปยังแดนประหารชีวิตซึ่งมีประตูผีที่ใช้สำหรับนำศพนักโทษออกจากเรือนจำ
นักโทษที่หนีออกมาทางหอรักษาการณ์ ๗ ชั้น ได้ใช้ขวานพังประตูแดนประพฤติตัวดีที่ใช้ปลูกผัก
(แดน ๑๓ ในปัจจุบัน) และแดน ๑, ๒, ๖ ไล่ทำร้ายผู้คุมและร้องประกาศชักชวนให้นักโทษภายในแดนออกไปสมทบ
ปรากฏว่ามีนักโทษแดนประพฤติตัวดีออกไปร่วมแหกหัก ๕ คนพร้อมมีด ๔ เล่ม แดน ๒ มีนักโทษถือไม้สำหรับม้วนผ้าวิ่งออกจากแดนไปร่วมสมทบ
๕ คน ส่วนแดน ๑ และ ๖ ไม่ปรากฏว่ามีนักโทษเข้าร่วมแต่อย่างใด ขุนพินิจชนารักษ์
นายแดน ๒ (เข้าใจว่าหมายถึงหัวหน้าแดน) และน.ช.ลบ ยามใน
ผู้ช่วยเจ้าพนักงานซึ่งทำหน้าที่ดูแลประตูแดน
ถูกนักโทษรุมทำร้ายบาดเจ็บแต่ไม่สาหัส
หลังจากที่พังประตูแดน ๑, ๒, ๖ และแดนประพฤติตัวดีแล้ว นักโทษในแดน ๒ เกือบทั้งหมดเตรียมการที่จะออกไปร่วมสมทบกับกลุ่มผู้ก่อเหตุที่หน้าแดน
เป็นเวลาเดียวกับที่พระยาอาชญาจักร์ ผู้บัญชาการเรือนจำ และตำรวจรักษาการณ์ได้นำกำลังเข้ามาถึงใต้หอรักษาการณ์
พระยาอาชญาจักร์ ได้สั่งให้ตำรวจใช้อาวุธปืนเข้ายิงสกัดกั้นกลุ่มนักโทษในทันที
ตำรวจใช้ปืนยิงพวกนักโทษที่ก่อการกำเริบบริเวณหน้าแดน ๒ และรุกไล่ยิงนักโทษกลุ่มนี้ไปทางโรงย้อมผ้า
(แดน ๑๖ ในปัจจุบัน) มีนักโทษ ๓ คนถูกกระสุนปืนและหลบหนีเข้าไปในแดน
๒ นักโทษกลุ่มหนึ่งหลบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในโรงย้อมผ้า
อีกกลุ่มหนึ่งหนีเข้าไปทางแดนประหารชีวิต
พระยาอาชญาจักร์ ผู้บัญชาการเรือนจำ หลวงวิบูลย์สารกิจ
ผู้ช่วยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พลตำรวจสำเนียง ตำรวจรักษาการณ์
ผู้คุมและนักโทษผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ได้ติดตามนักโทษไปทางแดนประหารชีวิต
เมื่อไปถึงหน้าโรงครัว (แดน ๙ ในปัจจุบัน) เห็นกลุ่มนักโทษกำลังใช้ขวานฟันประตูผีเพื่อแหกหักออกทางวัดบางแพรก
พระยาอาชญาจักร์พร้อมเจ้าหน้าที่ที่ติดตามไป และยามป้อมที่ ๘, ๙, ๑๐, ๑๑ จึงใช้ปืนระดมยิงใส่กลุ่มนักโทษเหล่านั้น
ขณะเดียวกันนายร้อยตำรวจโทพัฒน์ ผู้บังคับกองตำรวจมหันตโทษได้ตามเข้ามาสมทบ และได้ใช้อาวุธปืนลูกซองแฝดชนิดเบอร์ ๑๒ เข้าร่วมระดมยิงด้วย
เมื่อถูกระดมยิงเข้าใส่
นักโทษได้หนีหลบลงไปซ่อนอยู่ในบ่อน้ำบริเวณแดนประหารชีวิตจำนวน ๑๒ คน
ส่วนที่เหลือต่างพากันหนีเลาะกำแพงย้อนกลับมาทางหลังโรงครัวจนหมด
พระยาอาชญาจักร์กับพวกจึงล้อมจับนักโทษที่ซ่อนตัวอยู่ในบ่อน้ำได้หมดทุกคน
และสามารถติดตามจับกุมนักโทษที่หลบซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ ในเรือนจำได้หมด
การจับกุมครั้งนี้ต้องใช้กำลังรุนแรงเข้าทำการจับกุมนักโทษด้วย
เหตุการณ์ทุกอย่างจึงสงบลงได้
จากการเข้าทำการสกัดกั้นการแหกหักเรือนจำครั้งนี้ปรากฏว่า
เจ้าพนักงานตำรวจกองมหันตโทษสิ้นกระสุนไป ๑๐๔ นัด ตำรวจภูธรกองจังหวัดนนทบุรี ๑๓ นัด
หลวงวิบูลย์สารกิจ ๒ นัด พระจำเริญพลรบ ๗ นัด
และกระสุนปืนลูกซองของนายร้อยตำรวจโทพัฒน์ และนายร้อยตำรวจตรีสุวรรณอีกหลายนัด
มีนักโทษถูกยิงตายในที่เกิดเหตุ ๖ คน ถูกยิงและถูกทำร้ายขณะจับกุมจนบาดเจ็บสาหัสและไม่สาหัส
๓๔ คน นักโทษที่ถูกยิงและถูกทำร้ายได้มาตายที่สถานพยาบาล ๓ คน
รวมนักโทษที่ตายทั้งสิ้น ๙ คน เจ้าพนักงานถูกทำร้ายบาดเจ็บไม่สาหัส ๔ นาย
ผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานบาดเจ็บไม่สาหัส ๑ คน
รายชื่อนักโทษที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แหกหักเรือนจำครั้งนี้
๑.น.ช.โดด
กลิ่นขจร เลขหมาย ง.๕๗๕ อายุ ๒๔ ปี ชาวตำบลตลาด อำเภอเมือง
จังหวัดจันทบุรี อาชีพเดิมรับจ้าง ต้องโทษเมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๓ โทษฐานมีอาวุธปืนไม่ได้รับอนุญาตและปล้นทำร้ายเจ้าทรัพย์
กำหนดโทษ ๒๐ ปี ๑๒๐ วัน สภาพศพนอนหงายตายอยู่ในบริเวณแดนประหารชีวิต
ห่างจากกำแพงด้านหลังสถานพยาบาล ๖ ศอก มีบาดแผล ๓ แห่ง แห่งที่ ๑ ถูกยิงใต้สะบักขวาทะลุสีข้างซ้ายโตกลม
๒ นิ้ว แห่งที่ ๒ ถูกของแข็งกระแทกที่แก้มขวาผิวหนังถลอกโตกลม ๑ กระเบียด แห่งที่ ๓
ถูกของแข็งกระแทกที่เหนือราวนมซ้ายแผลถลอกโตกลม ๑ กระเบียด
๒.น.ช.ทอง
ทองโส เลขหมาย ง.๑๖๐๙ อายุ ๓๓ ปี ชาวตำบลดงน้อย อำเภอพนมสารคาม
จังหวัดฉะเชิงเทรา อาชีพเดิมทำนา ถูกส่งตัวมาที่เรือนจำมหันตโทษเมื่อ ๒๗ พฤศจิกายน
พ.ศ.๒๔๗๑ โทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
กำหนดโทษตลอดชีวิต สภาพศพนอนหงายตายอยู่ในบริเวณแดนประหารชีวิต
ห่างกำแพงด้นหลังสถานพยาบาล ๖ ศอก (นอนตายข้างน.ช.โดด กลิ่นขจร) มีบาดแผล ๒ แห่ง
แห่งที่ ๑ ถูกยิงเข้าที่ชายโครงข้างขวาแผลโตกลม ๑ กระเบียดทะลุเหนือเอวซ้ายกว้าง ๒
นิ้ว แห่งที่ ๒ ถูกยิงเข้าที่ใต้ข้อศอกซ้ายทะลุแผลโตกลม ๑ กระเบียด
๓.น.ช.หยวน
นามสกุลไม่ปรากฏ เลขหมาย ง.๑๓๕๗ อายุ ๓๒ ปี
ชาวตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี อาชีพเดิมทำไร่
ต้องโทษเมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๖
โทษฐานปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ตาย กำหนดโทษ ๑๖ ปี ๗ เดือน ๓ วัน
สภาพศพนอนหงายตายอยู่ในบริเวณแดนประหารชีวิต ห่างจากกำแพงด้านหลังสถานพยาบาลประมาณ
๓ วา มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่สบักขวาทะลุราวนมซ้ายโตกลมนิ้วครึ่ง
๔.น.ช.กวย
มีสี เลขหมาย ง.๑๔๓๑ อายุ ๓๖ ปี ชาวตำบลหนองกรด อำเภอบรรพตพิสัย
จังหวัดนครสวรรค์ อาชีพเดิมทำนา ต้องโทษเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๒ โทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา กำหนดโทษตลอดชีวิต
สภาพศพนอนหงายตายอยู่ในบ่อน้ำบริเวณแดนประหารชีวิต มีบาดแผล ๒ แห่ง แห่งที่ ๑ ถูกยิงเข้าที่หน้าผากทะลุออกกกหูซ้ายแผลโตกลม
๑ กระเบียด แห่งที่ ๒ ถูกยิงเข้าที่ตาซ้ายทะลุใต้แก้มซ้ายจนลูกตาทะลักแผลยาว ๔ นิ้ว
กว้าง ๑ นิ้ว
๕.น.ช.ติ๊ด
เกตแก้ว เลขหมาย ง.๑๓๓๘ อายุ ๓๐ ปี ชาวตำบลสระพลี อำเภอบางสน
จังหวัดชุมพร อาชีพเดิมทำโป๊ะ ต้องโทษเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๙ โทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา กำหนดโทษ ๒๐ ปี
สภาพศพนอนหงายตายอยู่ในบ่อน้ำบริเวณแดนประหารชีวิต (นอนตายข้างน.ช.กวย มีสี) มีบาดแผลถูกกระสุนปืนเข้าที่เหนือราวนมซ้ายโตกลม
๑ กระเบียด ทะลุออกใต้สะบักขวาแผลโตกลม ๒ นิ้ว
๖.น.ช.สุด
ฉ่ำโวหาร เลขหมาย ง.๑๓๒๓ อายุ ๓๘ ปี ชาวตำบลบางซื่อ
อำเภอบางซื่อ จังหวัดพระนคร อาชีพเดิมทำสวน ต้องโทษเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ.๒๔๖๔ โทษฐานปล้นทรัพย์ กำหนดโทษ ๑๗ ปี
สภาพศพนอนหงายตายอยู่ริมท่อน้ำข้างโรงย้อมผ้าด้านเหนือ มีบาดแผล ๓ แห่ง แห่งที่ ๑ ถูกยิงเข้าที่คางขวาทะลุท้ายทอยโตกลม
๒ กระเบียด แห่งที่ ๒ ถูกยิงเข้าที่กกหูขวากว้าง ๒ กระเบียด ยาว ๑ นิ้วลึกเข้าสมอง
แห่งที่ ๓ ถูกยิงเข้าที่กกหูขวาห่างจากแห่งที่ ๒ ประมาณ ๓ กระเบียดแผลโตกลม ๑ กระเบียดทะลุเข้าสมอง
๗.น.ช.โทน
หรือสาย อารักษ์ เลขหมาย ง.๒๘๓๐ อายุ ๓๑ ปี
ชาวตำบลปลายโพงพาง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม อาชีพเดิมทำสวน
ต้องโทษเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๔๗๒
โทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา กำหนดโทษตลอดชีวิต
สภาพศพถูกยิงเข้าที่เชิงกรานหลังด้านขวาโตกลม ๑ กระเบียด ทะลุไข่ดันขวาโตกลม ๑ นิ้ว
มาตายที่สถานพยาบาลของเรือนจำ
๘.น.ช.เจียน
บุตร์ทิพย์ เลขหมาย ง.๑๗๔๔ อายุ ๓๖ ปี ชาวตำบลมักกะเค้า
อำเภอหนองจอก จังหวัดเพชรบุรี อาชีพเดิมทำนา ต้องโทษเมื่อวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๔๖๕ โทษฐานปล้นทำร้ายเจ้าทรัพย์และมีอาวุธปืนไม่จดทะเบียน
กำหนดโทษ ๓๐ ปี กับ ๒๓๒ วัน สภาพศพมีบาดแผล ๔ แห่ง แห่งที่ ๑ ถูกยิงเข้าที่ใต้หูซ้ายทะลุตาขวาจนลูกตาทะลัก
แห่งที่ ๒ ถูกยิงเข้าที่สีข้างซ้ายระหว่างซี่โครงที่ ๙-๑๐ แผลโตกลม ๒ กระเบียด
ทะลุข้างท้องแถบซ้ายระหว่างซี่โครงที่ ๑๑-๑๒ แผลโตกลม ๓ นิ้ว แห่งที่ ๓ ถูกของแข็งกระแทกที่โคนขาขวาด้านนอกถลอก
หนังขาดกว้าง ๒ นิ้วยาว ๓ นิ้ว แห่งที่ ๔ ถูกยิงเข้าที่นิ้วเท้ากลางข้างซ้ายจนข้อปลายนิ้วขาด
มาตายที่สถานพยาบาลของเรือนจำ
๙.น.ช.เซี้ยว
แซ่ฉิน เลขหมาย ง.๑๔๖๐ อายุ ๓๖ ปี ชาวตำบลราชบุรี อำเภอเมือง
จังหวัดราชบุรี อาชีพเดิมรับจ้าง ต้องโทษเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๒ โทษฐานชิงทรัพย์ฆ่าเจ้าทรัพย์ตาย กำหนดโทษตลอดชีวิต
สภาพศพมีบาดแผล ๕ แห่ง แห่งที่ ๑ ถูกของแข็งเข้าที่กลางศีรษะ ๓ แผล จนกะโหลกแตกถึงสมอง
แห่งที่ ๒ ถูกของแข็งที่ศีรษะแถบขวากว้าง ๒ กระเบียด ยาว ๑ นิ้วครึ่ง ลึกถึงกะโหลก
แห่งที่ ๓ ถูกของแข็งที่ศีรษะแถบซ้ายลึกถึงกะโหลก แห่งที่ ๔ ถูกของแข็งที่หน้าผากลึกถึงกะโหลก
แห่งที่ ๕ ถูกของแข็งที่ศรีษะข้างซ้ายลึกถึงกะโหลก มาตายที่สถานพยาบาลเรือนจำ
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของน.ช.เซี้ยว แซ่ฉิน เนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปล้อมจับกุมนักโทษที่หลบซ่อนอยู่ในบ่อน้ำบริเวณแดนประหารชีวิต
น.ช.เซี้ยวและพวกอีก ๒ คนได้ปีนขึ้นมาจากบ่อน้ำและตรงเข้าจะฟันนายต่วนผู้คุมใหญ่ผู้ช่วยหัวหน้าโรงครัว
เจ้าหน้าที่จึงเข้าช่วยกันกลุ้มรุมทำร้ายนักโทษทั้ง ๓ คนเพื่อป้องกันชีวิตของเจ้าหน้าที่
จนกระทั่งน.ช.เซี้ยวไปตายที่สถานพยาบาลในภายหลัง
ส่วนนักโทษที่ถูกยิงตาย ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดยอมรับว่าเป็นคนยิง
ซึ่งทางกรมอัยการเห็นว่า
การที่ตำรวจป้อมรักษาการณ์และเหล่าเจ้าหน้าที่ที่ใช้ปืนยิงพวกนักโทษที่พยายามแหกคุกในครั้งนี้
ได้กระทำไปโดยคำสั่งที่ชอบและการกระทำการตามหน้าที่พอสมควรแก่เหตุ
ไม่ควรฟ้องร้องเอาความผิดแก่ฝ่ายเจ้าพนักงาน สมุหพระนครบาลเห็นชอบด้วย
จึงขออนุมัติระงับการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ซึ่งกระทำการจับกุมปราบปรามนักโทษพยายามแหกคุกตายและบาดเจ็บนั้นเสีย
กระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาเห็นว่าพฤติการณ์ที่พวกนักโทษจำนวนมากด้วยกันร่วมความคิดกันพยายามแหกคุกและต่อสู้ทำร้ายเจ้าพนักงานคราวนี้
นับว่านักโทษทำการอุกอาจร้ายแรงมาก กระทรวงมหาดไทยเห็นพ้องด้วยความเห็นกรมอัยการและสมุหพระนครบาลว่าเจ้าพนักงานได้กระทำไปแต่พอสมควรแก่เหตุ
จึงได้มีตราสั่งอนุมัติสั่งไม่ฟ้องเจ้าหน้าที่ทั้งหมดไปยังสมุหพระนครบาล
การแหกหักเรือนจำมหันตโทษครั้งนี้
ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของเรือนจำกลางบางขวาง
นับตั้งแต่ย้ายเรือนจำมหันตโทษมาอยู่ที่บางขวางแห่งนี้
หมายเหตุ...ภาษาที่ใช้และหน่วยวัดต่างๆ
ใช้ตามข้อมูลเดิมที่ค้นคว้ามาได้