วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

3.จดหมายร้องเรียนและคำสั่งลงโทษผู้คุม



เรือนจำจังหวัดกระบี่
วันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ..๒๔๗๙

              กราบเรียนท่านขุนไมตรีประชารักษ์ ข้าหลวงประจำจังหวัดกระบี่ มีข้อความดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ เมื่อวันที่ ๕ เดือนนี้ ได้มีเหตุเกิดขึ้นอย่างน่าบัดสี ที่เรือนจำ เหตุนี้เป็นเพราะเจ้าพนักงานผู้คุมซึ่งรู้ดี ในทางกฎข้อบังคับของเรือนจำอยู่แล้ว ยังเป็นใจให้นักโทษกระทำผิดโดยตรง เป็นเหตุให้เสียระเบียบการปกครองของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งนักโทษเป็นคนหมู่มากจะเอาตัวอย่างต่อๆไป พวกกระผมที่มีนามอยู่ข้างท้ายจดหมายนี้เห็นว่ามีความผิด จึงได้ร้องเรียนมาเพื่อทราบ ได้โปรดทำการไต่สวนในเรื่องนี้ด้วย

              ข้อ ๒ ในวันที่ ๖ เดือนเดียวกัน มีท่านผู้คุม ๓ ท่าน คือ นายลอย อินยฤทธ์ นายแดง เกื้อบุตร์ นายร่วง พูดเพราะ ทั้ง ๓ ท่านนี้มีตำแหน่งผู้คุมตรีได้กระทำไม่สมกับเป็นคนของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งกรมได้จ้างไว้กินเงินเดือนเสียเปล่าๆ ได้รู้เห็นเป็นใจร่วมคิดกันกับ น..ไล่ ประไพ ที่มีหน้าที่เป็นคนหุงต้มอาหารของนักโทษประจำครัว แล้วนายลอยผู้คุมได้มีคำสั่งให้จ่ายนักโทษหญิงแดงหรือง่อยออกจากห้องขังหญิงไปเก็บกากข้าวที่ห้องพัศดุครัวคนเดียว ในเวลานั้น น..ไล่ ประไพได้พูดกับผู้คุม คือนายลอยจึงได้บังอาจเข้าไปอยู่ในห้องด้วย แล้วเอากุญแจใส่ไว้ข้างนอกเป็นการห้ามนักโทษอื่นๆ พวกกระผมเห็นว่าผิดการกระทำนั้น จึงได้พากันไปลอดมองดูเห็นกำลังเกิดการเสียหายกันอยู่

              ข้อ ๓ นายแดง เกื้อบุตร์ เป็นผู้คุมรู้เห็นการกระทำของ น..ไล่ดี แต่เงียบเนื้อความไว้เสียไม่ได้ไต่สวนหรือทำรายงานยื่นต่อผู้บังคับเหนือ ซึ่งนายแดงผู้คุมก็ทราบข้อบังคับดีอยู่แล้วหรือนายแดงยื่นรายงานไว้แล้วก็ไม่ทราบ แต่เรื่องยังเงียบไม่เห็นใครเข้าไปไต่สวน ถ้าพระเดชพระคุณทราบจากจดหมายรายงานนี้แล้วได้กรุณาโปรดเข้าไปไต่สวน เพื่อความสงบของเรือนจำ เพราะ น..ไล่ ประไพมีใจกำเริบขึ้นทุกวันๆ พร้อมทั้งมีปากเสียงพูดว่าพวกกระผมเป็นแต่เพียงนักโทษใครจะฟ้องร้องได้ แม้แต่ผู้คุมก็ยังให้โอกาส พวกกระผมจึงร้องเรียนมายังท่านอยากทราบว่าจะผิดข้อบังคับหรือไม่ ถ้าเห็นว่าไม่ผิดพวกกระผมจะได้ประพฤติเอาเป็นตัวอย่างต่อๆไป แต่น่ากลัวว่าจะเกิดการไม่สงบขึ้นภายในเรือนจำเป็นแน่เพราะ น..ไล่ได้ด่าว่าพวกกระผมทุกๆคืน ๑ ที่นอน น..ไล่นอนติดกันกับห้องขังหญิง พวกกระผมจะพูดอะไรกันบ้างก็เป็นการของน..ไล่ทั้งนั้น พวกกระผมทนนิ่งอยู่เพื่อความสงบในเรื่องที่ได้ร้องเรียนมานี้ พวกกระผมทั้งหมดขอรับรองว่าเป็นความจริง ถ้าเป็นความไม่จริง พวกกระผมขออ้างนายก้าเหรี้ยผู้คุมใหญ่ ได้ไต่สวนความจริงจาก น..แดงหรือง่อยได้รับสารภาพไว้ชั้นหนึ่งแล้วพร้อม น..ลับ ส่วนพะยานอื่นๆที่ไม่ได้ระบุชื่อมาในรายงานนี้ เพราะผู้คุมใหญ่แลท่านพัศดีก็ทราบอยู่แล้วทั้งสิ้น ขอได้โปรดทำความไต่สวนให้พวกกระผมผู้ร้องทุกข์ต่อไป ถ้าเป็นอย่างไรท่านได้กรุณาโปรดส่งตามลำดับชั้นต่อๆไป.


                                                            ควรมิควรสุดแล้วแต่จะกรุณา
                                                (ลงชื่อ) กลิ่น ราชฤทธิ์                     ผู้ร้องทุกข์
                                                (ลงชื่อ) พร้อม รัตนบุรี                    ผู้ร้องทุกข์
                                                (ลงชื่อ) โรย จันมร์ส่งแสง              ผู้ร้องทุกข์
                                                (ลงชื่อ) ทิ้ง แก้วนำ               ผู้ร้องทุกข์


เป็นสำเนาอันถูกต้อง



                                                                                                ก้าเหรี้ย คัด ทาน





บันทึกความเห็นของคณะกรรมการ

เรื่อง ข้าราชการต้องหาว่ากระทำผิดวินัยข้าราชการพลเรือน


                                                            --------------

              เรื่องนี้ นักโทษชายกลิ่น ราชฤทธิ์ นักโทษชายพร้อม รัตนบุรี นักโทษชายโรย จันทร์ส่งแสง และ นักโทษชายทิ้ง แก้วนำ ได้ยื่นเรื่องราวกล่าวโทษนายลอย อินยฤทธิ์ นายแดง เกื้อบุตร์ และ นายร่วง พูดเพราะ ผู้คุมตรีเรือนจำจังหวัดกระบี่ มีข้อความว่า นายลอย อินยฤทธิ์ ได้สมคบกับนักโทษชายไล่ ประไพ สั่งให้จ่ายนักโทษหญิงแดงหรือง่อยออกจากห้องขังหญิงไปเก็บกากข้าวที่ห้องพัศดุครัว และนักโทษชายไล่ ประไพ ได้เข้าไปอยู่ในห้องนั้นด้วย แล้วเอากุญแจใส่ข้างนอก กระทำให้เกิดการเสียหายและผิดข้อบังคับของเรือนจำ นายแดง เกื้อบุตร์ ได้รู้เห็นแต่ไม่นำความไปแจ้งแก่ผู้บังคับบัญชา ส่วนนายร่วง พูดเพราะ มีหน้าที่ถือกุญแจห้องพัสดุครัว

              นายลอย อินยฤทธิ์ ให้การว่า การไขห้องขังนักโทษชายตามระเบียบของเรือนจำนี้ได้ไขเวลา ๖.๐๐ น.ทุกวัน แต่หากถึงเวรนายลอยทุกคราว นายลอย ได้ไขห้องขังก่อนกำหนดที่กล่าวนี้ให้นักโทษชายไล่ กับ นักโทษชายหมานุ้ยหัวหน้าโรงครัวไปก่อไฟต้มน้ำร้อน ส่วนนักโทษคนอื่นเคยได้ขอร้องให้เขาออกไปบ้าง แต่นายลอยห้ามไม่ให้ออกโดยกล่าวว่ายังไม่ถึงเวลา ในวันที่กล่าวหากันนี้ นักโทษชายไล่ได้มาขอร้องให้นายลอยจ่ายนักโทษหญิงแดงไปช่วยเลือกข้าวสาร นายลอยจึงจ่ายนักโทษหญิงแดงหรือง่อยและนักโทษหญิงบอดให้ไป นายลอยมีความตั้งใจจะให้ไปเลือกข้าวสารกันที่โรงครัว แต่เขาจะพากันไปเลือกข้าวสารกันที่ไหนนายลอยไม่ทราบ และในวันที่กล่าวหากันนั้นนายลอยไม่ได้รับฝากกุญแจห้องข้าวสารไว้จากนายร่วงผู้คุม

              นายแดง เกื้อบุตร์ ให้การว่า นายแดงมีหน้าที่ควบคุมนักโทษไปทำงานภายนอกเรือนจำ ในวันที่กล่าวหากันนั้นนายแดงนำนักโทษเข้ามาในเรือนจำเพื่อรับประทานอาหาร ได้เดินไปที่ข้างห้องพัศดุเก็บข้าวสาร ภายในห้องนั้นได้ยินเสียงคนพูดซุบซิบกัน แต่ประตูห้องใส่กุญแจ มีความสงสัยจึงมองตามช่องกระดานบานประตู เห็นนักโทษชายไล่กับนักโทษหญิงแดงหรือง่อยนั่งบนกระสอบข้าวสารจับต้องกอดจูบกันอยู่ นายแดงตั้งใจที่จะรายงานเหตุนี้ต่อพัศดีเรือนจำแต่ในวันนั้นไม่มีโอกาส ครั้นรุ่งขึ้นพัศดีเรือนจำได้เรียกนายแดงไปสอบสวนถามจึ่งแจ้งให้ทราบดั่งที่ให้การมาแล้ว

              นายร่วง พูดเพราะ ให้การว่า ตามวันเวลาที่กล่าวหากันนั้นนายร่วงไปตลาดปากน้ำเพื่อสั่งให้นายขุ้นส่งผักไปให้เรือนจำทำอาหารเลี้ยงนักโทษ ได้ฝากลูกกุญแจห้องขังพัศดุข้าวสารไว้กับนายลอย พอนายร่วงกลับจากตลาดมาถึงเรือนจำนายลอยก็คืนลูกกุญแจให้ ไม่ได้รู้เห็น เป็นแต่ได้ยินนักโทษพูดกันถึงเรื่องนี้ แต่นายร่วงไม่เชื่อว่าเป็นความจริง

              นักโทษชายไล่ ประไพ ให้การว่า นายลอยได้ไขกุญแจห้องขังให้นักโทษชายไล่ กับ นักโทษชายหมานุ้ยออกไปก่อนนักโทษอื่นๆ แต่เวลา ๕.๓๐ น.ทุกๆวัน ในวันที่กล่าวหากันนั้น เมื่อนายลอยได้ไขกุญแจห้องข้าวสารจ่ายข้าวสารให้นักโทษชายไล่แล้ว นักโทษชายไล่ได้ขอร้องให้นายลอยจ่ายนักโทษหญิงแดงไปช่วยนักโทษชายไล่เก็บกากข้าวสาร นายลอยจึงเรียกนักโทษหญิงแดงหรือง่อยและนักโทษหญิงบอดไปช่วย และนายลอยได้มอบลูกกุญแจห้องข้าวสารให้นักโทษชายไล่ไปไขห้องพัศดุข้าวสาร  นักโทษชายไล่จึ่งให้นักโทษหญิงทั้งสองเลือกกากข้าวสารอยู่ในห้องข้าวสาร แล้วใส่กุญแจขังนักโทษหญิงทั้งสองไว้แล้วเลยไปที่โรงครัว

              นักโทษหญิงแดงหรือง่อย ให้การว่า นายลอยเคยจ่ายให้ไปเลือกข้าวสารทั้งหมดรวม ๕ ครั้ง ไปกับนักโทษหญิงบอด ๒ ครั้ง ไปคนเดียว ๓ ครั้ง และการไขกุญแจห้องข้าวสารนักโทษชายไล่เอากุญแจจากนายลอยมาไขให้ทุกครั้ง

              เมื่อพิเคราะห์ถึงน้ำหนักและหลักฐานแห่งคำพะยานในสำนวนการไต่สวนนี้แล้ว เห็นว่ากรณีย์นี้ฟังได้สนิทว่า นายลอย อินยฤทธิ์ ได้ไขห้องขังให้นักโทษชายไล่ และ นักโทษชายหมานุ้ย ออกก่อนกำหนดเวลาตามระเบียบของเรือนจำ และได้จ่ายนักโทษหญิงแดงหรือง่อย นักโทษหญิงบอดไปกับนักโทษชายไล่โดยปราศจากข้อสงสัย เพราะนอกจากนายลอยจะให้การรับแล้ว ยังมีหลักฐานพะยานในสำนวนนี้อีก พอที่จะเชื่อได้ว่าเป็นความจริง และนายลอยมีความสัมพันธ์กับนักโทษชายไล่ และ นักโทษชายหมานุ้ย โดยที่นักโทษทั้งสองนี้เป็นหัวหน้าโรงครัวได้ส่งเศษอาหารให้แก่นายลอย นายลอยเป็นผู้ประมูลเศษอาหารส่งให้แก่ผู้อื่นอีกต่อหนึ่ง การกระทำของนายลอยนี้ผิดต่อข้อบังคับเรือนจำสำหรับคุมขังนักโทษตามหัวเมือง ร..๑๑๘ ข้อ ๔๙ และพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ..๒๔๗๖ มาตรา ๔๐,๔๑,และ ๔๒

              ในข้อที่กล่าวหาว่านักโทษชายไล่ กับ นักโทษหญิงแดงหรือง่อย ได้ร่วมประเวณีกันในห้องพัศดุเก็บข้าวสารนั้น เมื่อพิจารณาพะยานหลักฐานตามที่ปรากฏในสำนวนการไต่สวนแล้ว กรรมการคณะนี้ไม่เชื่อว่าเป็นความจริง เพราะในบางตอนพะยานเบิกความแตกต่างกัน และบางตอนมีเหตุอันน่าสงสัยว่าพะยานจะได้ซักซ้อมกันมาให้การปรักปรำเอาก็ได้ แต่คณะกรรมการเชื่อว่านักโทษชายไล่กับนักโทษหญิงแดงหรือง่อย ได้เข้าไปอยู่โดยลำพังสองต่อสองในห้องพัศดุเก็บข้าวสารจริง ทั้งนายแดงผู้คุมก็ให้การรับรองในข้อนี้ว่าได้เห็นนักโทษชายไล่กับนักโทษหญิงแดงหรือง่อยกำลังกอดจูบกันอยู่

              ข้อหาฉะเพาะตัวนายแดง เกื้อบุตร์ ฟังได้ว่าเป็นผู้คุมซึ่งมีหน้าที่ควบคุมนักโทษไปทำงานภายนอกเรือนจำ ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับกิจการภายในเรือนจำ ครั้นบังเอิญไปเห็นเหตุการณ์เข้า ในวันรุ่งขึ้นก็ได้แจ้งเหตุการณ์ให้พัศดีเรือนจำทราบ ซึ่งพัศดีเรือนจำได้ให้การรับรองอยู่แล้ว จึ่งเห็นว่าไม่ควรมีความผิด

              ข้อหาฉะเพาะตัวนายร่วง พูดเพราะ ซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้ถือลูกกุญแจห้องพัศดุนั้นก็ดี แต่ขณะที่เกิดเหตุนี้นายร่วงได้ไปธุระนอกเรือนจำด้วยกิจธุระของเรือนจำ กับได้มอบลูกกุญแจไว้กับนายลอย และในข้อนี้แม้นายลอยจะปฏิเสธว่านายร่วงไม่ได้ฝากลูกกุญแจนี้ไว้กับตนก็ดี แต่คดีมีหลักฐานเพียงพอว่า ลูกกุญแจห้องพัศดุได้ไปอยู่ที่นายลอยจริง เช่นนักโทษชายไล่เบิกความว่า ได้ไปเอากุญแจจากนายลอยมาไขห้องพัศดุ กับได้เอาลูกกุญแจไปคืนที่นายลอย เป็นต้น ดั่งนี้เชื่อได้ว่านายร่วงหาได้รู้เห็นเหตุการณ์เรื่องนี้แต่อย่างใดไม่.


                                                                        (ลงนาม) วาสนา วงศ์สุวรรณ์         กรรมการ

                                                                        (ลงนาม) หกเซ่ง เหมฤก               กรรมการ

                                                                        (ลงนาม) นิธยากรวิจิตร                   กรรมการ


เป็นสำเนาอันถูกต้อง



                                                                                                            ก้าเหรี้ย  คัด  ทาน






                                                                            ตราครุฑ


ที่ ๒๔๖๗/๒๔๗๙                                                               ศาลากลางจังหวัดกระบี่


                                                            ๒๒ สิงหาคม ๒๔๗๙

เรื่อง ตัดเงินเดือนผู้คุม
จาก คณะกรมการจังหวัดกระบี่
ถึง   ปลัดกระทรวงมหาดไทย

              ด้วยได้รับคำร้องของ น.. กลิ่น ราชฤทธิ์ กับพวกหาว่า นายลอย อินยฤทธิ์ นายแดง เกื้อบุตร์ นายร่วง พูดเพราะ ผู้คุมตรีเรือนจำจังหวัดกระบี่ กระทำผิดวินัยข้าราชการพลเรือนดั่งปรากฏข้อความตามสำเนาซึ่งได้เสนอมาพร้อมกับหนังสือนี้ด้วยแล้ว

              เรื่องนี้ ได้ตั้งกรรมการรวม ๓ นายทำการสอบสวน ได้ความตามสำนวนการไต่สวนและบันทึกความเห็นของคณะกรรมการ ซึ่งคัดสำเนาเสนอมาพร้อมหนังสือนี้ และ อ... จังหวัดกระบี่ ได้พิจารณาปรึกษาพร้อมกันแล้วเห็นว่า นายลอย อินยฤทธิ์ ผู้เดียว มีความผิดตามข้อบังคับเรือนจำสำหรับคุมขังนักโทษตามหัวเมือง ร..๑๑๘ ข้อ ๔๙ และพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ..๒๔๗๖ มาตรา ๔๐๔๑ และ ๔๒ จึ่งลงมติให้ตัดเงินเดือน นายลอย อินยฤทธิ์ เสีย ๑๐ เปอร์เซ็นต์มีกำหนด ๓ เดือน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ๒๔๗๙ เป็นต้นไป

              เพราะฉะนั้น จึ่งได้ส่งสำเนาเอกสารการสอบสวนรวม ๒๗ ฉบับ มาพร้อมกับหนังสือนี้ด้วยแล้ว.


                                                                        ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
                                                                        (ลายเซ็นอ่านได้ว่าประเสริฐ)
                                                                        อัยยการจังหวัดลงนามแทน







ที่มาหอจดหมายเหตุแห่งชาติ มท.๐๒๐๑.๓/๑๒

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น