ตราครุฑ
ที่ ๑๖๙/๖๓๖๙ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย
วันที่ ๓ กันยายน พระพุทธศักราช ๒๔๗๕
เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย
เรียน ประธานคณกรรมการราษฎร
ด้วยได้รับใบบอกสมุหพระนครบาล
ดำเนิรความตามรายงานผู้บัญชาการเรือนจำมหันตโทษว่า เมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๕ เวลา ๖.๐๐นาฬิกาเศษ
อ้ายโชตินักโทษเรือนจำจังหวัดนนทบุรี โทษฐานชิงทรัพย์ กำหนดโทษ ๗ ปี
ได้เป็นหัวหน้าชักชวนนักโทษช่วยกันเข้าจับนายเช้า มีคุณสุด ผู้คุมรอง ซึ่งควบคุมอยู่นั้น
เมื่อจับตัวได้แล้วก็คุมไปที่โรงเลี้ยงอ่านประกาศซึ่งเขียนเตรียมไว้ก่อน
อันมีใจความว่า เสนอสภาราษฎร์ (หมายเลข๑) เมื่ออ่านประกาศจบแล้ว อ้ายโชติได้ร้องถามนักโทษทั้งหลายว่า “พวกเราเห็นควรให้ออกจากหน้าที่หรือไม่” นักโทษเหล่านั้นได้ร้องตะโกนตอบว่า
“ควรให้ออก” อ้ายโชติจึงนำใบลาที่เขียนเตรียมไว้แล้วบังคับให้นายเช้า
ผู้คุมรอง ลงลายมือชื่อ (หมายเลข๒) และช่วยกันถอดเครื่องแบบผู้คุมไล่นายเช้า
มีคุณสุด ออกจากประตูเรือนจำไป
ดั่งได้สอดสำเนาประกาศของนักโทษซึ่งอ้ายโชติเป็นผู้อ่าน และสำเนาใบลาซึ่งนายเช้า
มีคุณสุด ผู้คุมถูกอ้ายโชติและพวกบังคับให้ลงลายมือชื่อแนบมาพร้อมกับหนังสือนี้แล้ว
เรื่องนี้ เจ้าหน้าที่กำลังไต่สวนมูลกรณีย์อยู่
เมื่อผลที่สุดแห่งการไต่สวนได้ความประการใดจะได้เรียนมาให้ทราบต่อไป.
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
(ลายเซ็นพระยาศรีเสนา ลงนามแทน)
เสนาบดี
(สำเนา) หมายเลข ๑
ขอประทานเสนอ
สภาราษฎร เรือนจำจังหวัดนนทบุรี
วันที่ (ไม่ปรากฏ) สิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๕
พวกเรานักโทษทุกคนเห็นไหมว่าประเดี๋ยวนี้บ้านเมืองของเราศิวิลัยแล้วตลอดถึงกองเรือนจำก็เช่นเดียวกัน
มาบัดนี้เราเห็นว่ายังมีผู้ที่โง่เขลาเบาปัญญาได้มาปะปนอยู่และได้ใช้อำนาจอันไม่เป็นธรรม
เกินกว่าข้อบังคับของเรือนจำอยู่เป็นเนืองนิตย์ เพราะเหตุนี้ พวกเราจงช่วยกันสละเลือดเนื้อของเราเพื่อความเป็นไทยและความปกติภาพต่อไป
นี่แน่ พวกเราทั้งหลายจงตื่นขึ้นเสียเถิดจากความฝันร้าย
ซึ่งเราได้แกล้งทำเป็นเสมือนหนึ่งหลับมาแล้วเป็นเวลานาน ความจริงพวกเราซึมดีทีเดียว-มิใช่หรือว่า เรานักโทษได้ถูกปกครองอย่างที่เรียกว่า กดหัว ไม่ใช่ กฎหมาย แต่เราก็หาได้แสดงกิริยาหรือพยายามที่จะหาความเสมอภาคให้แก่ตนอย่างใด
ทั้งนี้ มิใช่โง่ แต่คร้าน เพราะเราเจียมตนเสมอว่าเราเป็นนักโทษ บัดนี้ ถึงคราวแล้วที่บ้านเมืองได้เปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดินจากสมบูรณาญาสิทธิราช
คือมีพระเจ้าแผ่นดินอยู่เหนือกฎหมาย มาเป็นมีรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้น
จึงจำเป็นที่เราจะต้องพร้อมใจกันสละความสุขทั้งมวญที่ได้รับอยู่
เพื่อกำจัดตัวมารอันเป็นอสูรที่คอยทำลายความสุขของพวกเรา นี่
บุคคลผู้นี้ก็เป็นหนึ่งที่อยู่ในจำพวกนี้ด้วย คือ
๑.
อาหาร อันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนักโทษ
แต่บุคคลผู้นี้มิได้ให้ความเสมอภาคตามควรที่จะได้รับ
๒.
ยุยงส่งเสริมฟ้องร้องในสิ่งที่ไม่มีมูลกระทำความปั่นป่วนให้แก่นักโทษ
๓.
ใช้กิริยาวาจาหยาบคายอันไม่เป็นความสุภาพต่อนักโทษผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
ดังปรากฏถูกกระทำร้ายมาครั้งหนึ่งแล้ว
และอื่นๆอีกนานาประการซึ่งพวกเราทุกคนย่อมทราบดีอยู่แก่ใจแล้ว
และบุคคลผู้นี้ก็เคยได้ถูกไล่ออกมาจากเรือนจำมหันตโทษ(เก่า)
โดยมีนิสสัยสันดานเช่นที่กล่าวมาแล้วนั้น ฉะนั้น เราจึงพร้อมใจกันลงความเห็นว่า
บุคคลผู้นี้ไม่สมควรที่จะรับราชการเป็นผู้บังคับบัญชาของพวกเราต่อไป ในโอกาสนี้ จึงอยากจะขอความเห็นจากพวกเราสนับสนุนอีกครั้งหนึ่งว่า
บุคคลผู้นี้จะสมควรให้ย่างเข้ามาในเรือนจำจังหวัดนนทบุรีนี้อีกต่อไปหรือไม่
นักโทษเรือนจำจังหวัดนนทบุรีลงมติพร้อมกันเห็นว่า
ควรให้ลาออกจากตำแหน่งหน้าที่ราชการ.
สำเนาถูกต้อง
(ลายเซ็น)
(สำเนา) หมายเลข ๒
เรือนจำจังหวัดนนทบุรี
วันที่ (ไม่ปรากฏ) สิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๕
กระผมนายเช้า มีคุณสุด ขอประทานรายงานเรียนจ่านายสิบชิต ชำนิมโนมัย ผู้ช่วยพะทำมะรง ขอได้นำเสนอตามลำดับชั้น ตลอดถึงกราบเรียนท่านผู้บัญชาการเรือนจำมหันตโทษ
ด้วยบัดนี้ นักโทษทั้งเรือนจำนี้ลงมติพร้อมกันเห็นว่ากระผมไม่สมควรรับราชการอยู่อีกต่อไป เนื่องจากบกพร่องในการปกครอง
เพราะฉะนั้น กระผมขอประทานลาออกจากตำแหน่งหน้าที่แต่วาระนี้เป็นต้นไป ได้ส่งเครื่องแบบผู้คุมรอง ๑ สำรับมาพร้อมกับรายงานนี้แล้ว.
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
(ลงนาม) เช้า มีคุณสุด
สำเนาถูกต้อง
(ลายเซ็น)
***หมายเหตุ…คำสะกดบางตัวที่ผิดเขียนตามต้นฉบับเดิม
***ที่มา…หอจดหมายเหตุแห่งชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น